ตาแห้ง เคยเป็นกันมั้ย?
อาการของตาแห้งเป็นอย่างไร มีได้หลากหลายอาการ ทั้งน้อยไปมาก บางคนมาตรวจตา คุณหมอแจ้งว่ามีตาแห้ง ทั้งๆที่คนไข้ไม่ได้รู้สึกว่าแห้งก็มี บางคนมีอาการฝืดตา แสบตา เคืองตา ปวดตา น้ำตาไหล ตาแดงหรือตามัวเป็นพักๆ ซึ่งสามารถสังเกตโดย ถ้าตอนแรกมองภาพชัดแล้วซักพักมัวลง โฟกัสไม่ได้ ไม่ชัด ภาพไม่คม พอหลับตาลง ลืมตาขึ้นใหม่ แล้วเห็นภาพชัดขึ้นชั่วคราวแล้วเบลอใหม่ นั่นเป็นจากการที่กระจกตาเป็นส่วนที่ต้องการความชุ่มชื้นตลอดเวลา
หากมีความแห้ง ผิวตาที่เป็นส่วนที่มีเส้นประสาทรับความรู้สึกอยู่มาก จะรับรู้ความรู้สึกเป็น ฝืด แสบ เคืองตา ไปกระตุ้นให้ต่อมน้ำตาสร้างน้ำตามากขึ้นจนมีน้ำตาไหลเพราะเคืองตา หรือหากแห้งจนผิวตามีจุดรอยแห้ง ก็จะรับรู้ความรู้สึกคล้ายมีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ในตา กระจกตาไม่ใส ส่งผลให้มีตามัวตามมา
ปัจจัยที่ส่งผลให้มีอาการตาแห้ง
- การใช้คอมพิวเตอร์ มือถือ แทปเลต อ่านหนังสือเป็นเวลานาน
- อายุที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะวัยหมดประจำเดือน
- การใส่คอนแทคเลนส์
- ลม ฝุ่นละออง มลภาวะ แสงแดด
- การใช้ยารักษาภูมิแพ้ เช่น ยาลดน้ำมูก
- เปลือกตาอักเสบ ไขมันที่ขอบเปลือกตาอุดตัน
คำแนะนำจากคุณหมอ
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดการใช้คอมพิวเตอร์ หรือมือถือ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ให้มีการพักสายตาหลับตาเป็นพักๆบ้าง และอาจหาแว่นกรองแสงสีฟ้าช่วยลดตาแห้งและการเมื่อยล้าสายตาจากการทำงาน
- หลีกเลี่ยงฝุ่นควัน การทำงานที่มีแสงแดดจ้า
- กระพริบตา หรือหลับตาพักบ่อยๆ
- ลดจำนวนชั่วโมงช่วงการใส่คอนแทคเลนส์ มีแว่นสายตาไว้ด้วยใช้ใส่ช่วงที่ไม่จำเป็นต้องใส่คอนแทคเลนส์
- ใช้น้ำตาเทียมหยอดตา ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงน้ำตาธรรมชาติ ช่วยเสริมความชุ่มชื้นให้กับดวงตา
- เวลาใช้สายตาทำงานมองใกล้ทุก 20 นาที ให้พักสายตา 20 วินาที โดยมองวัตถุไกลๆนอกหน้าต่างไกลมากกว่า 20 ฟุตหรือหลับตาพักไป ถือเป็นหลัก 20-20-20 ที่จักษุแพทย์ใช้แนะนำช่วยในการถนอมดวงตาจากการใช้สายตาอ่านหนังสือหรือทำคอมพิวเตอร์นานๆ
- ถ้าไม่ดีขึ้น ควรไปตรวจกับจักษุแพทย์กันนะคะ